
มารู้จักวัณโรคกันก่อน "วัณโรค" ไม่ใช่ "วันละโรค" นะ แค่โรคนี้โรคเดียวก็เหนื่อยแล้ว สำหรับวัณโรคมีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งคือ ไมโคแบคทีเรียม ทูเบอร์คูโลซิส (Mycobacterium tuberculosis) ซึ่งเชื้อตัวนี้มันจะชอบอยู่ในที่ที่มีออกซิเจนมากๆ เช่น ปอด เชื้อนี้จะทำให้ผู้ป่วยเกิดมีอาการไอติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน และทำให้เกิดแผลในปอดจนทำให้เสียชีวิตได้ และที่เป็นปัญหามากที่สุดในปัจจุบันก็คือ "วัณโรคปอด"
อาการที่น่าสงสัยเป็นวัณโรค
1. ไอเรื้อรังเกิน 2 สัปดาห์ หรือไอมีเลือดออก
2. มีไข้ต่ำ ๆ
3.เจ็บหน้าอก
4. อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
( อาจมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างก็ได้ )
จะรู้ได้อย่างไรว่าป่วยเป็นวัณโรค
1. ตรวจเสมหะ
2. เอกซเรย์ปอด
การป้องกัน
วัณโรคสามารถป้องกันได้ด้วย
1. นำเด็กแรกเกิดไปรับการฉีดวัคซีน บีซีจี
2. ผู้ที่อยู่บ้านเดียวกันกับผู้ป่วยวัณโรค ควรได้รับการตรวจเสมหะ และเอกซเรย์ปอด
3. ผู้ป่วยวัณโรคควรปิดปาก-จมูก เวลาไอหรือจาม บ้วนเสมหะลงในภาชนะที่มีฝาปิด แล้วทำลายโดยการต้ม หรือเผา
4. จัดบ้านที่อยู่อาศัยให้อากาศถ่ายเท และให้แสงแดดส่องถึง เพราะแสงแดดสามารถฆ่าเชื้อวัณโรคได้
การรักษา
วัณโรคเป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายได้แน่นอน แต่ต้องปฏิบัติดังนี้
1. กินยาตามชนิด และขนาดที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด และสม่ำเสมอจนครบ
2. ในช่วงแรกซึ่งเป็นช่วงที่แพร่เชื้อได้ ผู้ป่วยควรอยู่แต่ในบ้าน และแยกห้อง และจัดสถานที่ให้แสงแดดส่องถึง
3. อย่าหยุดกินยา แม้ว่าอาการจะดีขึ้น เพราะการหยุดกินอาจจะทำให้เชื้อดื้อยา และยากต่อการรักษา
4. กินอาหารได้ตามปกติ พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ และควรงดบุหรี่ และยาเสพติด
ความสัมพันธ์ของวัณโรคกับเอดส์
ผู้ที่เคยได้รับเชื้อวัณโรคเข้าสู่ร่างกาย ไม่จำเป็นต้องป่วยเป็นวัณโรคทุกคน เพราะร่างกายมีกลไกหลายอย่าง ที่จะต่อสู้ป้องกันวัณโรค แต่เมื่อได้รับเชื้อไวรัสเอดส์ จะทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายบกพร่อง มีโอกาสป่วยเป็นวัณโรคง่ายขึ้น
ไปรับการตรวจรักษา และฉีดวัคซีน บีซีจี. ได้ที่ไหน ?
- โรงพยาบาลทุกแห่งทั่วประเทศ
- สถานีอนามัยใกล้บ้าน
- สมาคมปราบวัณโรค ฯ
- ศูนย์บริการสาธารณสุข กทม.
- ศูยน์วัณโรคเขต
- สถานตรวจโรคปอดกรุงเทพฯ
แสดงความคิดเห็น