
ผู้ป่วยเบาหวาน
หากผู้ป่วยเบาหวานควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ได้ จะทำให้เกิดโรคแทรกซ้อน (โรคที่สอง) ตามมา ซึ่งร้อยละ 10-40 ของโรคแทรกซ้อนจากเบาหวาน เกิดจากการดูแลตนเองที่ไม่ถูกต้อง
อาการผิดปกติที่พบบ่อยในผู้ป่วยเบาหวาน
- ภาวะน้ำตาลในเลือต่ำ เป็นลมหมดสติ
- อารมณ์ฉุนเฉียว
- ปวด มึนศีรษะ
- ชาปลายมือ, เท้า
- เหงื่อออกมากผิดปกติ
- ความรู้สึกทางเพศลดลง
โรคแทรกซ้อนจากเบาหวาน
- เบาหวานขึ้นตา
- ไตอักเสบ
- ปลายประสาทอักเสบ, เสื่อม
- หลอดเลือดตีบแข็ง, เสื่อม
- เป็นแผลเรื้อรัง โดยเฉพาะแผลที่เท้า
หลักการปฏิบัติตนทั่วไป เพื่อป้องกันปัญหา และโรคแทรกซ้อนของเบาหวาน
1. พยายามรักษาระดับน้ำตาลในเลือด ให้ใกล้เคียงระดับปกติ โดยปฏิบัติดังนี้
- รับประทานอาหารที่มีกาก (เส้นใยอาหารสูง)
- ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ
- งดสูบบุหรี่ งดสุรา
- รับประทานยา หรือฉีดยาตามแพทย์สั่ง
- หมั่นตรวจระดับน้ำตาลในปัสสาวะ
2. รักษาความสะอาดร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณเท้า
- หมั่นตรวจดูเล็บและซอกน้ำว่ามีรอยถลอกแผลพุพองหรือไม่
- รองเท้าที่ซื้อมาใหม่ ควรสวมไม่เกินวันละครึ่งชั่วโมง
- ให้ความอบอุ่นบริเวณที่ขาระวังอย่าวางกระเป๋าน้ำร้อนจัดและนานเกินไป จะทำให้เกิดผู้พองแล้วลุกลามใหญ่โต
- ถ้ามีแผลควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที เพื่อการรักษาโรคเบาหวานที่ถูกต้อง
3. มีท็อฟฟี่หรือน้ำตาลติดตัวไว้อม เมื่อเกิดอาการใจสั่น หน้ามืด เป็นลม เนื่องจากน้ำตาลต่ำเกินไป
4. ถึงแม้ไม่มีอาการผิดปกติ ควรตรวจร่างกายจากแพทย์โดยละเอียดอย่างน้อยปีละครั้งหรือตามแพทย์นัด เพื่อเฝ้าระวังความผิดปกติอันอาจเกิดขึ้น การรักษาแต่เนิ่นจะเป็นผลดีต่อการชะลอการเกิดภาวะแทรกซ้อน และลดความรุนแรงของโรค
5. ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
จงมีวินัยให้ตัวเองเพราะถึงแม้ว่าอาการแทรกซ้อนที่หลงเหลืออยู่จะเป็นการถาวร แต่มีบางรายอาจดีขึ้น จึงไม่ควรละเลยในการดูแลและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างสม่ำเสมอ
ภาวะซึมหรือหมดสติ เกิดจากระดับน้ำตาลในเลือดต่ำหรือสูงเกินไป
น้ำตาลในเลือดต่ำ อาการที่ควรสังเกตุ
ใจสั่น ตาลาย เหงื่อออก ตัวเย็นเหมือนเวลาหิวข้าวมากๆ และเกิดขึ้นเร็ว ถ้าเป็นมากขึ้นจะมีขากรรไกรแข็งหมดสติได้
ภาวะกรดหรือคีโตนคั่งในเลือด มีอาการดังนี้
มีอาการปัสสาวะมาก กระหายน้ำมากกว่าธรรมดา และอ่อนเพลียมากนำมาก่อน ต่อมาจึงหอบ ตัวร้อน คลื่นไส้ อาเจียน ปากแห้งลิ้นแห้งมาก และถึงกับหมดสติได้
ทางแก้ไข
อันตรายมากและต้องรีบแก้ไขเบื้องต้นก่อน ควรให้ญาติใกล้ชิดรู้จักวิธีการรักษาพยาบาลเบื้องต้นดังนี้
วิธีการพยาบาลเบื้องต้น
ช่วยประคองให้นั่งหรือยกหัวให้สูงหน่อย แล้วค่อยๆ ป้อนน้ำหวานข้นๆ หรือน้ำเชื่อมประมาณ 4-5 ช้อนโต๊ะ หยอดเข้าปากช้าๆ ระวังอย่าให้สำลัก
เมื่อปฐมพยาบาลเบื้องต้นดังกล่าวแล้วควรสังเกตุว่า
1. ถ้าผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น หรือมรู้ตัวดีขึ้น แสดงว่าที่ไม่รู้ตัวเกิดจากน้ำตาลในเลือดต่ำ ขั้นต่อไปคือนึกย้อนหลังไปว่าก่อนเกิดอาการเหล่านี้ กินน้อยไปหรือกินอาหารเลยเวลาปกติหรือออกกำลังกายมากกว่าที่เคยทำอยู่หรือไม่
ถ้าใช่พยายามปรับให้กินอาหารให้ตรงเวลาและออกกำลังกายให้สมดุล
กับอาหารที่กินเข้าไป แต่ถ้ากินอาหารและออกกำลังกายดีสมดุลดีแล้วอาจจะต้องปรับลดยาลงแต่อย่าไปเลิกยา ถ้าสงสัยหรือตัดสินใจไม่ถูกควรปรึกษาแพทย์
2. ถ้าผู้ป่วยมีอาการไม่ดีขึ้น หรือมีอาการอื่นๆ เช่น หอบ ตัวร้อน อาเจียนร่วมด้วยและหมดสติ ให้รีบนำส่งโรงพยาบาลทันที เพื่อการรักษาอย่างเร่งด่วน และควรจัดท่าให้ผู้ป่วยตะแคงหน้าเพื่อป้องกันการสำลักและการจัดลิ้น
แสดงความคิดเห็น